วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2556

Communicative language Teaching

       การสอนภาษาแบบสื่่อสาร (Communicative Language Teaching - CLT) 
     
        การสอนภาษาตามแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร เป็นการจัดการเรียนการสอนตามทฤษฎีการเรียนรู้ ซึ่งมุ่งเน้นความสำคัญของตัวผู้เรียนจัดลำดับการเรียนรู้เป็นขั้นตอนตามกระบวนการใช้ความคิดของผู้เรียน โดยเริ่มจากการฟังไปสู่การพูด การอ่าน การจับใจความสำคัญ ทำความเข้าใจ จดจำแล้วนำสิ่งที่เรียนรู้ไปใช้  มีการจัดกิจกรรมที่เน้น ผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างมีความหมาย ได้ฝึกใช้ภาษาในสถานการณ์ที่มีโอกาสพบได้จริงในชีวิตประจำวัน โดยยังคงให้ความสำคัญกับโครงสร้างไวยากรณ์

ขั้นตอนการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร
  1. ขั้นการนำเสนอเนื้อหา (Presentation) ในการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศ การนำเสนอเนื้อหาใหม่ จัดเป็นขั้นการสอนที่สำคัญขั้นหนึ่ง ในขั้นนี้ครูจะให้ข้อมูลทางภาษาแก่ผู้เรียน ซึ่งนับเป็นการเริ่มต้นการเรียนรู้ มีการนำเสนอเนื้อหาใหม่ โดยจะมุ่งเน้นการให้ผู้เรียนได้รับรู้และทำความเข้าใจเกี่ยวกับความหมายและรูปแบบภาษาที่ใช้กันจริงโดยทั่วไป
  2. ขั้นการฝึกปฏิบัติ (Practice) เป็นขั้นตอนที่ให้ผู้เรียนได้ฝึกใช้ภาษาที่เพิ่งจะเรียนรู้ใหม่จากขั้นการนำเสนอเนื้อหาในลักษณะของการฝึกแบบควบคุมหรือชี้นำ โดยมีครูผู้สอนเป็นผู้นำในการฝึกไปสู่การฝึกแบบค่อยๆปล่อยให้ทำเองมากขึ้น เป็นแบบกึ่งควบคุม
  3. ขั้นการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร (Production) ขั้นการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสาร นับเป็นขั้นที่สุดขั้นหนึ่ง เพราะการฝึกใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารเปรียบเสมือนการถ่ายโอนการเรียนรู้ภาษาจากสถานการณ์ในชั้นเรียนไปสู่การนำภาษาไปใช้จริงนอกชั้นเรียน การฝึกใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารโดยทั่วไป มุ่งหวังให้ผู้เรียนได้
แบบฝึกปฏิบัติของวิธีสอนแบบ CLT
  1. Mechanical practice  เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนสามารถปฏิบัติได้โดยไม่ต้องมีความเข้าใจในเรื่่องของภาษา
  2. Meaningful practice เป็นกิจกรรมที่มีการควบคุมตัวภาษา นักเรียนต้องเลือกทางเลือกที่ถูกต้องเพื่อมาใช้ในการเรียนภาษา
  3. Communicative practice เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนใช้ภาษาในบริบทที่มีการสนทนาจริง
กิจกรรมที่ใช้ในการสอน
  1. Information Gap Activities เป็นกิจกรรมที่ผู้เรียนทำเป็นคู่หรือกลุ่ม มีการพูดแลกเปลี่ยนข้อมูล    ซึ่่งกันและกันเพื่อให้ได้งานปฏิบัติที่สมบูรณ์
  2. Jigsaw Activities  ที่เน้นให้ผู้เรียนได้มีปฏิสัมพันธ์ทำงานเป็นกลุ่มร่วมมือกัน
  3. Accuracy and Fluency activities เป็นกิจกรรมการอ่านออกเสียงเป็นการอ่านเพื่อฝึกความถูกต้องและความคล่องแคล่ว
     วิดีโอศึกษาเพิ่มเติม


  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น